
5 สิ่ง ที่ควรลองผสมกับชาของคุณแล้วทำให้รสชาติ ” ชานมไข่มุก ” ของคุณอร่อยมากขึ้น สำหรับคนที่ชอบ ” ความหวาน ” แต่ยัง ” รักสุขภาพ ” ที่ร้านชานมไข่มุกควรลอง
เมื่อดื่มชา คุณอาจอยากเติม ความหวาน เพื่อให้ถูกปากของตัวเองมากขึ้น หรือ คุณติดรสชาติหวาน แต่ถ้าได้ความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาลแทนล่ะ ? ( 5 สิ่ง ที่ควรลองผสมกับชา)

สามารถใช้อะไรได้บ้าง ? หากคุณกลัวโรคเบาหวาน หรือ เพียงแค่ต้องการหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีระดับน้ำตาลสูงและมีรสหวานมากเกินไป บทความนี้สามารถช่วยคุณได้
เมื่อคุณไม่อยากบริโภคน้ำตาล ก็มีอย่างอื่นให้คุณเลือกไปผสมกับชาในมีความอร่อยยิ่งขึ้น
” หากคุณต้องการทำให้ชาของคุณหวานขึ้นด้วยสิ่งที่ไม่ใช่ น้ำตาล ลองใช้เป็นน้ำผึ้งแทนน้ำตาลดู แค่คุณนำมันไปผสมกับชา “
น้ำผึ้งนั้นมีความหวานพอๆ กับ น้ำตาลก็จริงแต่น้ำผึ้งนั้นมีประโยชน์ เช่น มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินมากมาย และยังมีคาร์โบไฮเดรตอีกด้วย นอกจากน้ำผึ้งแล้วยังมีอย่างอื่นอะไรที่สามารถผสมเข้ากับชาได้ ดังนี้
” 5 สิ่ง ที่ควรลองผสมกับชา “
1. การใส่ซินนามอนหรืออบเชยแท่งหนึ่งลงไปในการชงชาเพื่อเพิ่มความหวานแทนน้ำตาล ( 5 สิ่ง ที่ควรลองผสมกับชา )

ซินนามอนคืออบเชย และอบเชยก็คือเปลือกของต้นไม้ เป็นต้นไม้ที่เติบโตในบางพื้นที่ของเอเชีย และสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกปี ยิ่งพื้นที่ที่คุณอยู่ อยู่ในเอเชียอบเชยยิ่งมีความสดใหม่และมันจะไม่สูญเสียประโยชน์ของมันมากนัก คุณสามารถเพิ่มแท่งอบเชยในการชงชาได้ เมื่อคุณดื่มรสชาติหวานจะค้างอยู่ที่คอ และเมื่อคุณใส่อบเชยมากเกินไปจะทำให้รสชาติของชานั้นเผ็ดเหมือนกับการกินขิงชิ้นใหญ่ ๆ เข้าไปเลย
แน่นอนว่าคุณสามารถบดผงเชยได้ เมื่อผสมเข้ากับการชงชามันจะเป็นตะกอนอยู่ข้างล่างของแก้ว แต่ถ้าคุณไม่อยากเห็นมัน คุณลองเอาผงอบเชยนั้นใส่ถุงชาเปล่า ซึ่งผงอบเชยนั้นจะไม่ละลายน้ำเหมือนกับใบชา
2. เปลือกโกโก้บด จะทำให้มีรสหวานติดอยู่ที่คอ

เปลือกโกโก้นั้นเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับเม็ดโกโก้ จากนั้นนำเปลือกโกโก้ที่แยกออกจากเม็ดมาทำให้แห้งและบดให้ละเอียด
ถ้าคุณเพิ่มผงโกโก้เข้าไปในการชงชาเล็กน้อย คุณจะได้รับรสชาติที่แปลกใหม่และ รสชาติที่เข้ากันของชาและผงโกโก้ แต่ถ้าหากคุณซื้องผงโกโก้สำเร็จรูปมาใช้ ผงสำเร็จรูปนั้นมีส่วนผสมของแป้งอยู่ด้วย อาจจะทำให้เสียรสชาติไปเลยก็ได้
เปลือกโกโก้นั้นจะไม่ละลายน้ำเช่นกันกับผงอบเชย ถุงชาเปล่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเปลือกโกโก้ที่ไม่ละลายน้ำ ดังนั้นควรแช่มันไปพร้อม ๆ กับการแช่ชา
3. เติมดอกสายน้ำผึ้งลงไปในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความหวานและความหอมของดอกไม้

ดอกสายน้ำผึ้งนั้นเป็นที่รู้จักกันในนามของดอกไม้แสนหวาน ปัจจุบันเติบโตขึ้นมากในทุก ๆ ที่ มันสามารถสร้างความหวานให้กับชาของคุณได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ด้วยความที่เป็นดอกไม้และส่วนหนึ่งเป็นเพราะความหวานของน้ำหวานในดอกไม้
คุณสามารถเพิ่มความหวานได้มากเท่าที่ต้องการและสามารถใส่ดอกสายน้ำผึ้งได้มากตามที่ต้องการเช่นเดียวกัน ซึ่งดอกสายน้ำผึ้งนั้นเป็นสมุนไพร จึงไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
4. สตอเบอร์รี่จะช่วยให้ชามีรสหวานขึ้นได้

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาเป็นส่วนผสมสำหรับชาร้อน ซินนามอนหรืออบเชย เปลือกโกโก้หรือผงโกโก้ จะทำให้มีรสหวานขึ้นได้ แต่ดอกสายน้ำผึ้งนั้นสามารถใช้กับการชงชาแบบร้อนและเย็นได้เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับสตอเบอร์รี่ก็คือพวกมันมีกลิ่นหอมและมีรสหวานในตัว เมื่อนำมาผสมกับชาแล้วมันจะทำให้ชามีรสชาติที่หวานขึ้นและมีกลิ่นหอมขึ้นได้
รสชาติของชาร้อนนั้นจะหายไปเมื่อชานั้นหายร้อน แต่ชาเย็นนั้นจะไม่หายไปแต่จะจืดขึ้นเพราะว่าน้ำแข็งที่อยู่ภายในแก้วนั้นละลายผสมกับน้ำชา
แล้วอีกอย่างสตอเบอร์รี่เมื่อทานตอนที่มันอุ่นๆ จะมีรสชาติเปรี้ยวนำ ไม่ค่อยมีความหวาน และ ทำให้รูปร่างไม่น่ารับประทานหรือดื่ม ดังนั้นส่วนมากจึงนิยมนำสตอเบอร์รี่มาทำเมนูเย็น
>>> เมนูชาสตอเบอร์รี่สด คลิก <<<
5. ฝักวนิลาทำให้ชามีรสชาติหวานขึ้นได้

วนิลาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ฝักวนิลลาจะช่วยเพิ่มความหวานซึ่งความหวานสามารถเข้ากันได้ดีกับหลาย ๆอย่างรวมถึงชาหลายประเภทอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การนำฝักวนิลาชงกับชาดำจะทำให้มีกลิ่นหอม และเมื่อดื่มจะทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม
บทความแนะนำ
เลือกชาเขียวตัวไหนดี ? เปรียบเทียบ 7 ชาเขียวจากโรงงานชาเหนือ
ยุคนี้ชาเขียวไม่ได้มีแค่แบบเดียว! ยิ่งใครเป็นสาวกชาเขียว ยิ่งต้องรู้ว่าชาเขียวแต่ละแบบ แต่ละสายพันธุ…
สร้างแบรนด์ชาเขียวพรีเมียม จากโรงงานชาเชียงใหม่ ครบจบในที่เดียว!
คุณเคยฝันอยากมีแบรนด์ชาเขียวเป็นของตัวเองไหม? ยุคนี้ใคร ๆ ก็หันมาดื่มชาเขียว เพราะนอกจากจะอร่อยแล้ว …
เปรียบเทียบชาญี่ปุ่น 3 ประเภท Ujicha Matcha Hojicha ต่างกันอย่างไร ?
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ชาญี่ปุ่นกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ไม…