4 สัญญาณเตือน ว่าใบชาของเรานั้นหมดอายุไปแล้ว
หากคุณไม่รู้ว่าชาของคุณนั้นหมดอายุไปแล้วหรือยัง ? เรามีบทความ ( 4 สัญญาณเตือน ว่าใบชาของเรานั้นหมดอายุไปแล้ว ) ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่เคยพบปัญหา ชาหมดอายุไป แต่ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่หรือหลาย ๆ ร้านที่ ซื้อชามาตุนไม่โดยไม่ได้รับวันหมดอายุของชา
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าชาของคุณนั้นหมดอายุแล้ว ? ชาแต่ละชนิดนั้นเมื่อหมดอายุจะมีรสชาติต่างกันหรือไม่ แต่ฉันว่าคุณไม่จำเป็นต้องชิมมันหรอก แค่คุณนั้น อ่าน 4 ข้อที่ฉันเตรียมมาให้คุณดังต่อไปนี้
1. สังเกตจากกลิ่นเมื่อเปิดกระปุกชา
นี่คือสัญญาณเตือนแรกที่รู้ว่าชาหมดอายุที่ชัดเจนที่สุด แต่บางคนนั้นก็เพิกเฉย “ นึกว่าชาที่ทิ้งไว้นาน ๆ ก็จะเป็นแบบนี้” ซึ่งกลิ่นฉุนที่ว่า เกิดจากความชื้นต่าง ๆ เข้าไปในตัวชาร่วมถึงอากาศ และปล่อยที่ไว้เป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือ หลาย ๆ ปี ทำให้ใบชามีความชื้นสะสม ทำให้ใบชามีกลิ่นเหม็นอับหรือกลิ่นฉุน ซึ่งมีคนในบางกรณีจะไม่ได้กลิ่นของชา เช่น คนที่เป็นหวัน หรือคนที่สูบบุรี่จัด พวกเขาจะไม่ได้กลิ่นเหล่านี้ แต่นอกจากกลิ่นยังมีข้อสังเกตอื่น ๆ อีก คนที่เป็นหวันหรือสูบบรี่จัด หรือกรณีอื่น ๆ สามารถอ่านในข้อต่อไปได้
2. หากพบเชื้อราในใบชาแสดงว่าใบชาหมดอายุไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่ใบก็ตาม
นี่เป็นอีกสัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัดวัน ไม่ใช่กลิ่นที่รุนแรง แต่ยังมีเชื้อราที่เกิดขึ้นภายในกระปุกชา แม้ว่าในใบชาไม่มีสารจุลินทรีย์ก็ตาม เพาะว่าในกระปุกชานั้นมีความชื้นอยู่ด้วย และ ทำให้เกิดเชื้อราใบชาขึ้น ถึงจะมีแค่ไม่กี่ใบที่เป็นเชื้อรา และ คุณอาจจะคิดว่า “แค่หยิบออกไปทิ้งก็ได้ไม่เห็นยาก” คุณคิดผิดแล้ว เชื้อรานั้นจะย้ายจะใบหนึ่งไปสู่อีกใยได้ง่ายและรวดเร็ว และคุณไม่สามารถนำมันออกจากใบชาได้ แล้วยิ่งใบชาด้านบนมีเชื้อรามากเท่าไหร่ ใบชาที่อยู่ข้างล่างของกระปุกก็จะติดเชื้อราจากเชื้อราที่ติดอยู่กับใบชาด้านบน
3. รสชาติและกลิ่นของชานั้นจะหายไป
การชิมชาที่หมดอายุแล้วนั้น มันก็ยังไงอยู่ แต่ชาบางชนิดนั้นมันไม่สามารถเช็คจากกลิ่นหรือเชื้อราได้ จึงจำเป็นต้องชิมเพื่อทดสอบว่าใบชาของคุณนั้นหมดอายุไปแล้วหรือยัง และ ใบชาที่หมดอายุแล้วไม่มีรสชาติและกลิ่นของชา หรือ มีน้อยกว่าใบชาที่ไม่หมดอายุอย่างมาก แต่ใบชาบางชนิดอาจจะเปรี้ยวเหมือนกับน้ำหมักเลยก็ได้ และหากต้องชิมชาที่ไม่รู้ว่าหมดอายุแล้วนานแล้วหรือยังนั้นควรชิมในปริมาณน้อย ๆ เพราะว่าอาจจะมีผลเสียแก่ร่างกายได้ แต่ชาที่มีรสชาติจืดก็ไม่ได้หมายความมาหมดอายุแล้ว ยังมีสาเหตุที่ทำให้ชามีรสชาติและกลิ่นที่อ่อนกว่าปกติมีหลายปัจจัย คือ การปิดฝาไม่สนิด หรือที่ใบชานั้นโดยแสงแดด ร่วมไปถึงได้รับความร้อนมาก ๆ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ชามีรสชาติจืด และไม่มีกลิ่น หรือกลิ่นน้อยมาก
4. เมื่อใบชาสัมผัสกับอากาศหลังการแกะ จะมีอายุน้อยกว่า 3 ปี หรือบางชนิดอาจจะมากกว่านี้
หากคุณเปิดซองชาแล้วให้คุณจดบันทึกวันเปิดซอง แล้วเริ่มทำการนับถอยลังวันหมดอายุของชาแต่ละชนิดนั้น ซึ่ฃชาส่วนใหญ่จะมีอายุไม่เกิน 2 ปี และชาที่มีอายุที่น้อยที่สุดคือ ชาเขียว มีอายุไม่เกิน 1 ปี แต่ถ้ามีกล่องชาหรือถุงชา ยังคงปิดสนิด ชาบางชนิดอาจจะอยู่ได้นานถึง 4 ปี เลยก็ได้
สรุปสั้นๆ ก็คือ สังเกตจากกลิ่นที่เปลี่ยนไปของชา และสังเกตเชื้อราที่ใบชา หรือ ทั้งสองที่ว่ามามีความเป็นปกติ ต้องลองชงทดสอบดูว่ามีรสชาตอจืด กว่าเดิม หรือ เปรี้ยวกว่าเดิมไหม และสุดท้าย ให้ดูจากวันที่เปิดถุงหรือวันที่ซื้อมา
บทความแนะนำ
ขายส่งใบชาเขียวอบแห้ง โรงงานผลิตชาเชียงใหม่
ขายส่งใบชาเขียวอบแห้ง จำหน่ายผงชาเขียวราคาถูก ด้วยโรงงานรับผลิตชาเขียว แหล่งขายใบชาเขียวอบแห้งราคาส่…
แนะนำ 10 ยี่ห้อชาเขียว ยี่ห้อไหนดี ? เข้มข้น ราคาถูก !!
แนะนำ 10 ยี่ห้อชาเขียว ยี่ห้อไหนดี ? ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่ได้ความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเ…
ผลิตชาเขียว ให้ธุรกิจแฟรนไชส์ ราคาถูก ต้นทุนไม่สูง โรงคั่วชาเชียงใหม่
ผลิตชาเขียว ให้ธุรกิจแฟรนไชส์ ราคาถูก ใครหลาย ๆ คนสังเกตไหมว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ทำไมถึงไปไม่รอด เพราะกา…