
ธุรกิจเครื่องดื่มที่มีการแข่งขันสูง การสร้างสรรค์เมนูที่โดดเด่นและมีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการร้านกาแฟและธุรกิจเครื่องดื่ม หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่ไม่เคยตกยุคคือ “ชาเขียว” ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้ชาเขียวยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง แต่เคยสงสัยกันไหมว่า “ชงชาเขียวข้ามคืน” นั้นสามารถทำได้หรือไม่ ? และถ้าหากต้มชาเขียวแล้ว จะมีวิธีการเก็บรักษาอย่างไรให้คงความสดใหม่และอยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์ ? บทความนี้จะมาไขทุกข้อสงสัย พร้อมนำเสนอเคล็ดลับและแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ เพื่อนำไปปรับใช้และสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจของคุณ !
ไขข้อสงสัย “ชงชาเขียวข้ามคืน“ ได้หรือไม่ได้ ?

สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการชงชาเขียวแบบดั้งเดิม อาจจะมีความกังวลว่าการแช่ชาเขียวเป็นเวลานานข้ามคืนนั้นจะส่งผลเสียต่อรสชาติและคุณภาพของชาหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คำตอบสำหรับคำถามนี้อาจไม่ได้มีเพียงแค่ “ได้” หรือ “ไม่ได้” เท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการชงที่คุณเลือก เพื่อตอบคำถาม “ชงชาเขียวข้ามคืน ได้หรือไม่ได้ ?” ในบริบทนี้ สามารถแยกออกเป็น 2 กรณี :
การทำ “เบสชาเขียว” สกัดเข้มข้นแล้วไม่เก็บไว้ในตู้เย็น
- รสชาติขมและฝาด : ในใบชามีสารแทนนิน (Tannins) ซึ่งเป็นสารที่ให้รสฝาด หากแช่ชานานเกินไป สารนี้จะถูกสกัดออกมามาก ทำให้ชามีรสชาติขมและฝาดที่ไม่พึงประสงค์
- สูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระ : แม้ว่าชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แต่การแช่ทิ้งไว้โดยไม่เก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้สารบางชนิดเสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงไป
- ความเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย : หากทิ้งชาที่ชงแล้วทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้ามคืน อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
การทำ “เบสชาเขียว” สกัดเข้มข้นแล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น
- รสชาติที่นุ่มนวลและไม่ขม : การเก็บไว้ในตู้เย็นจะค่อย ๆ ดึงรสชาติและความหอมของชาออกมา ทำให้ได้ชาที่มีรสชาตินุ่มนวล ไม่ขมและฝาดเหมือนการชงแล้วไม่เก็บไว้ในตู้เย็น
- สารต้านอนุมูลอิสระสูง : มีงานวิจัยบางชิ้นระบุว่าการเก็บไว้ในตู้เย็นอาจช่วยรักษาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในชาได้ดีกว่าไม่เก็บไว้ในตู้เย็น
- ความสะดวกในการเตรียม : สามารถเตรียมชาเขียวไว้ล่วงหน้าในปริมาณมากได้ ทำให้สะดวกต่อการเสิร์ฟในร้าน
วิธีการที่หลายร้านนิยมใช้เพื่อความรวดเร็ว โดยมีขั้นตอนการต้มและแช่ชาในระยะเวลาที่กำหนด แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อใช้ภายใน 3-5 วัน วิธีนี้เป็นการเตรียมชาเข้มข้นไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการชงชาใหม่ทุกครั้งที่มีออเดอร์
สูตรเบสชาเขียว 2 ลิตร

ส่วนผสมเบสชาเขียว 2 ลิตร
- น้ำเปล่า 2,500 มิลลิลิตร
- ผงชาเขียว 125 กรัม
วิธีทำเบสชาเขียว 2 ลิตร
- เทน้ำใส่ในภาชนะ นำไปตั้งเตา ต้มน้ำให้เดือด
- เมื่อน้ำเดือดแล้ว ให้ปิดเตา เทผงชาเขียวลงในภาชนะ
- คนแล้วแช่ชาไว้ประมาณ 10 นาที
- ครบเวลาแล้ว ให้กรองเอาแต่น้ำชา (กรองซ้ำอีกรอบได้เพื่อไม่ให้มีเศษตะกอน)
- เสร็จแล้วพักชาให้คลายร้อน เทเบสชาเขียวใส่ในขวดบรรจุที่เตรียมไว้
เคล็ดลับ : การเก็บรักษาชาเขียวต้มแล้วให้อยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์
สำหรับธุรกิจเครื่องดื่ม การเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเครื่องดื่มในร้านได้ นี่คือเคล็ดลับในการเก็บรักษาชาเขียวที่ต้มแล้ว ให้อยู่ได้นานถึง 3 สัปดาห์ :

- ความสะอาดและฆ่าเชื้อ :
- ขวดบรรจุ : เลือกใช้ขวดแก้วหรือขวดพลาสติกสำหรับอาหาร (Food Grade) ที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว การฆ่าเชื้อสามารถทำได้โดยการต้มในน้ำเดือดประมาณ 10-15 นาที หรืออบในเตาอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15-20 นาที
- อุปกรณ์ : อุปกรณ์ที่ใช้ในการต้ม, กรอง, และบรรจุชา เช่น หม้อ, ทัพพี, กรวย ก็ต้องสะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อเช่นกัน
- การต้มและกรองชาที่ถูกวิธี :
- ใช้น้ำสะอาด : ใช้น้ำกรองหรือน้ำดื่มที่มีคุณภาพดีในการต้มชา
- ควบคุมอุณหภูมิและเวลา : ต้มชาตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ชาแต่ละชนิด เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดและลดการปนเปื้อน
- กรองกากชาออกให้หมด : การกรองกากชาออกอย่างละเอียดจะช่วยลดการบูดเสียของชา
- การบรรจุที่ถูกสุขลักษณะ :
- รอให้ชาเย็นสนิทก่อนบรรจุลงในขวดที่ฆ่าเชื้อแล้ว การบรรจุชาที่ยังร้อนอาจทำให้เกิดไอน้ำและส่งผลต่อคุณภาพของชา
- บรรจุชาให้เต็มขวด โดยเว้นพื้นที่ว่างเล็กน้อยด้านบน
- ปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันอากาศและสิ่งสกปรกเข้าไป
- การพาสเจอร์ไรซ์ (Pasteurization – ทางเลือกเพื่อยืดอายุ) :
- สำหรับใครที่ต้องการยืดอายุการเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้น การพาสเจอร์ไรซ์เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยนำขวดที่บรรจุชาแล้วไปแช่ในน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15-30 นาที (ระยะเวลาและอุณหภูมิอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของชา ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม) การพาสเจอร์ไรซ์จะช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจทำให้ชาเสีย
- การเก็บรักษาในตู้เย็น :
- หลังจากบรรจุและปิดฝาเรียบร้อยแล้ว ให้นำขวดชาไปแช่เย็นทันทีที่อุณหภูมิ 2-4 องศาเซลเซียส การเก็บรักษาในอุณหภูมิต่ำจะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และรักษาคุณภาพของชาได้นานขึ้น
- ควรเก็บขวดชาในที่มืดหรือในตู้เย็น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพจากแสง
ข้อควรระวัง : แม้จะทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัดแล้ว คุณภาพและรสชาติของชาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลา ดังนั้นควรตรวจสอบคุณภาพของชาก่อนนำไปจำหน่ายหรือบริโภคเสมอ หากพบว่ามีกลิ่น รสชาติ หรือสีที่ผิดปกติ ควรทิ้งทันที
ปัญหาที่พบบ่อยกับการ “ชงชาเขียวข้ามคืน”

ในการ “ชงชาเขียวข้ามคืน” หรือการเก็บรักษาชาเขียวต้มแล้ว อาจพบปัญหาบางประการที่ผู้ประกอบการควรทราบ:
- รสชาติขม : แม้ว่าการสกัดเย็นจะช่วยลดความขม แต่หากแช่นานเกินไปก็อาจทำให้เกิดรสขมได้ ควรทดลองหาระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับใบชาแต่ละชนิด
- ความขุ่นของชา : ชาที่เก็บไว้นานอาจเกิดความขุ่นได้ ซึ่งอาจเกิดจากตะกอนของสารต่างๆ ในชา แต่โดยทั่วไปแล้วยังสามารถดื่มได้ หากไม่มีกลิ่นหรือรสชาติผิดปกติ
- การปนเปื้อน : หากขั้นตอนการผลิตและการเก็บรักษาไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้ชาเสียเร็วขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของสี : ชาเขียวที่เก็บไว้นานอาจมีสีที่เข้มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่หากสีเปลี่ยนแปลงไปมาก หรือมีตะกอนผิดปกติ ควรตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด
การ “ชงชาเขียวข้ามคืน” ในรูปแบบของ “เบสชาเขียว” สกัดเข้มข้น เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการร้านกาแฟและธุรกิจเครื่องดื่ม ที่ต้องการนำเสนอเมนูชาเขียวที่มีรสชาตินุ่มนวลและสดชื่น พร้อมทั้งสามารถเก็บรักษาชาเขียวที่ต้มแล้วได้อย่างถูกวิธี เพื่อคงคุณภาพและยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 3 สัปดาห์ การใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การชง การบรรจุ ไปจนถึงการเก็บรักษา จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ
- 4 แอปฯจัดการร้านค้า ร้านกาแฟร้านชาไข่มุกต้องมี
- OEM ชาเขียว (OEM Green Tea)โรงงานรับผลิตชาเขียว ส่งออกชาเขียว
- สร้างแบรนด์ชา ด้วยโรงงานผลิตชา OEM&ODM
สำหรับผู้ประกอบการร้านกาแฟและธุรกิจเครื่องดื่มที่กำลังมองหาแหล่งวัตถุดิบชาเขียวคุณภาพสูงในราคาส่ง หรือต้องการบริการรับผลิตชา OEM&ODM เพื่อสร้างแบรนด์ของตัวเอง หรือผลิตชาสูตรพิเศษสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ Bluemocha โรงงานผลิตชาในเชียงใหม่ พร้อมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของคุณ Bluemocha มีวัตถุดิบชาเขียว และชาอื่น ๆ ให้เลือกสรรมากกว่า 50 รายการ พร้อมสต็อกสินค้าจำนวนมากและกำลังการผลิตสูง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ Bluemocha ยังมีบริการรับผลิตชา OEM&ODM แบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา จัดหาวัตถุดิบ ควบคุมกระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า
- ฟรี! ค่าออกแบบ LOGO
- ฟรี! ค่าจัดส่งทั่วประเทศ เมื่อสั่งตั้งแต่ 5,000 Kg. ขึ้นไป
- ฟรี! ยื่นจด อย. เมื่อสั่ง 100 Kg. ขึ้นไป
- มีบริการจดยื่นขอรับรอง HALAL เมื่อสั่งตั้งแต่ 500 Kg. ขึ้นไป
- มีบริการรับบรรจุชา ขนาด 250 กรัม, 500 กรัม, 1 กิโลกรัม
- ฟรี! ตัวอย่างใบชา ให้ลูกค้าทดลอง
- ฟรี! ยื่นขอใบ Certificate (สำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งออกไปต่างประเทศ)
เรารับผลิตชา OEM & ODM รับผลิตชาด้วยขั้นต่ำการผลิตที่ไม่สูง เริ่มต้นที่ 51 กิโลกรัม สามารถคละผลิตภัณฑ์ของเราที่มีอยู่แล้ว หรือผลิตตามสูตรเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าได้ รับเรทราคาโรงงานทันที (ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้) ที่สำคัญโรงงานผ่านมาตรฐานการผลิต HACCP, GHPs, อย., USFDA และเครื่องหมายรับรองฮาลาล (HALAL) ไว้ใจได้แน่นอน เราให้ความสำคัญกับการผลิตทุกขั้นตอน มีคุณภาพ และตรวจสอบก่อนถึงมือคุณ หากสนใจสามารถติดต่อหาเราได้ทุกช่องทางออนไลน์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมมาได้เลย
Bluemocha เรายินดีอย่างยิ่ง ในการให้บริการรับผลิตชา สร้างแบรนด์ชา ผลิตชาสำหรับแฟรนไชส์ ให้กับคุณ พร้อมที่จะสนับสนุนธุรกิจให้เติบโต ด้วยการมุ่งเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพ, การให้คำปรึกษาในการเลือกสินค้า, การมีสินค้าพร้อมจัดส่ง, การจัดส่งสินค้าตรงเวลา รวมถึงการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น หากสนใจผลิตชาหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม ทักหาเราได้ทุกช่องทางออนไลน์
สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LINE : @bluemochacoffee
TEL : 064-9045146
EMAIL : [email protected]
โรงงานของเรา มุ่งมั่นที่จะให้บริการและผลิตผงชาเขียวคุณภาพ เราพร้อมที่จะช่วยคุณพัฒนาสินค้าผงชาเขียวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
