ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน? พร้อมวิธีเก็บรักษาให้สดใหม่!

ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน? เคยไหมที่ซื้อใบชาเขียวอบแห้งมาเก็บไว้ แล้วไม่แน่ใจว่ามันจะยังหอมอร่อยเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า? หรือสำหรับเจ้าของร้านกาแฟและธุรกิจเครื่องดื่มที่ต้องใช้วัตถุดิบอย่างใบชาเขียวอบแห้งในปริมาณมาก คุณกังวลไหมว่าชาที่เก็บไว้จะเสียคุณภาพก่อนนำไปชงให้ลูกค้า? เรื่องของการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้งให้คงความสดใหม่นั้นสำคัญกว่าที่เราคิด เพราะถ้าเก็บไม่ถูกวิธี กลิ่นหอมและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของชาเขียวอาจจางหายไป หรือแย่กว่านั้นคือชาอาจเสื่อมคุณภาพจนไม่สามารถนำมาชงดื่มได้

บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยว่า ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน? กันแน่ พร้อมทั้งบอกถึงวิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าใบชาเขียวของคุณจะยังคงคุณภาพดีเหมือนใหม่ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่มชาที่บ้าน หรือผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการรักษามาตรฐานของเครื่องดื่ม เรามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณแน่นอน เราจะมาดูกันถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่ออายุการเก็บรักษาของใบชาเขียวอบแห้ง และแนะนำขั้นตอนการเก็บรักษาที่ทำตามได้ง่าย เพื่อให้ใบชาของคุณยังคงกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีที่สุด

ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน?

มาถึงคำถามหลักที่หลายคนสงสัยกันแล้วว่า ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน? โดยทั่วไปแล้ว ใบชาเขียวอบแห้งจะมีอายุการเก็บรักษาโดยประมาณอยู่ที่ 6 ถึง 12 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นเพียงแค่ตัวเลขคร่าว ๆ เท่านั้น

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ ใบชาเขียวอบแห้งส่วนใหญ่จะไม่มี “วันหมดอายุ” ที่ระบุชัดเจนเหมือนอาหารบางประเภท แต่จะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า “คุณภาพที่ดีที่สุด” (Best By หรือ Best Before) ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ชาจะยังคงรสชาติ กลิ่น และสีที่ดีที่สุด หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม

หลังจากช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว ชาก็อาจจะยังสามารถนำมาชงดื่มได้ แต่คุณภาพก็จะค่อยๆ ลดลงไปตามกาลเวลา ดังนั้นอายุการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้ง จึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งเราจะลงรายละเอียดกันในหัวข้อถัดไป

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ การเลือกซื้อใบชาเขียวอบแห้งจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ โรงงานผลิตชาที่มีมาตรฐาน หรือร้านค้าที่มีการจัดการสินค้าที่ดี จะช่วยให้คุณได้ชาที่มีคุณภาพดีตั้งแต่แรกเริ่ม และมีโอกาสที่จะเก็บรักษาไว้ได้นานยิ่งขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ “ใบชาเขียวอบแห้ง” เสียคุณค่า

ทีนี้เรามาดูกันถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้ง การเข้าใจถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้วิธีการเก็บรักษาชาได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้คงความสดใหม่ได้นานที่สุด

• แสง : แสงเป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์สำหรับใบชาเขียวเลยครับ โดยเฉพาะแสงแดดโดยตรง จะทำให้คลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ชาเขียวมีสีเขียวสดใส เสื่อมสภาพลง นอกจากนี้ แสงยังสามารถทำลายสารประกอบอื่นๆ ที่ให้รสชาติและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาเขียวได้ด้วย ทำให้ชาสีซีดลง กลิ่นจางหายไป และรสชาติเปลี่ยนไปในที่สุด
• ความชื้น : ความชื้นถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของใบชาเขียวอบแห้งเลยครับ เพราะความชื้นจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้ชาเสียคุณภาพอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความชื้นยังทำให้ใบชาจับตัวกันเป็นก้อน และสูญเสียความหอมสดชื่นไป หากปล่อยให้ใบชาสัมผัสกับความชื้น แม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้ชาเสียรสชาติและไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคได้
• อากาศ/ออกซิเจน : การที่ใบชาเขียวอบแห้งสัมผัสกับอากาศและออกซิเจนเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับการที่ผลไม้ปอกเปลือกแล้วเปลี่ยนสี เมื่อชาเกิดออกซิเดชั่น รสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ก็จะค่อยๆ จางหายไป และอาจเกิดกลิ่นเหม็นอับหรือไม่พึงประสงค์ขึ้นแทน ทำให้คุณภาพของชาลดลงอย่างเห็นได้ชัด
• ความร้อน : ความร้อนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เร่งกระบวนการเสื่อมสภาพของใบชาเขียวอบแห้ง ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงแดดโดยตรง หรือความร้อนจากแหล่งอื่นๆ ก็ตาม ความร้อนจะทำให้สารประกอบที่ให้รสชาติและกลิ่นหอมในชาสลายตัวเร็วขึ้น ทำให้ชาสูญเสียคุณภาพและความสดใหม่ไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การเก็บรักษาใบชาในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
• ภาชนะที่เก็บชา : ภาชนะที่เราเลือกใช้ในการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้งก็มีผลต่ออายุการเก็บรักษาเช่นกัน ภาชนะที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาชนะที่โปร่งแสง หรือภาชนะที่ปิดไม่สนิท ก็อาจทำให้ชาสัมผัสกับแสง ความชื้น หรืออากาศได้ง่ายขึ้น ควรเลือกใช้ภาชนะที่ทึบแสงและปิดสนิทเพื่อป้องกันปัจจัยเหล่านี้
• กลิ่น : ใบชาเขียวอบแห้งมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นต่างๆ ได้ง่ายมาก หากเราเก็บใบชาไว้ใกล้กับอาหาร เครื่องเทศ หรือสิ่งของที่มีกลิ่นแรง กลิ่นเหล่านั้นก็จะซึมเข้าไปในใบชา ทำให้กลิ่นและรสชาติของชาเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ควรเก็บใบชาให้ห่างจากสิ่งของที่มีกลิ่นแรง
• การสัมผัสโดยตรง : การสัมผัสใบชาเขียวอบแห้งด้วยมือที่ไม่สะอาด อาจนำความชื้น เหงื่อ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปสู่ใบชา ซึ่งอาจทำให้ชาเสื่อมคุณภาพได้ ดังนั้น ควรใช้ช้อนหรืออุปกรณ์ที่สะอาดและแห้งในการตักชา
• ระยะเวลา : แม้ว่าเราจะเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้งอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม คุณภาพของชาก็จะค่อย ๆ ลดลงตามกาลเวลา กลิ่นและรสชาติอาจจะจางลงเมื่อเก็บไว้นานเกินไป โดยทั่วไปแล้ว ใบชาเขียวอบแห้งจะมีคุณภาพดีที่สุดในช่วง 6-12 เดือนแรก

เมื่อเราเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่ออายุการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้งแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาก็คือการรู้วิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง เพื่อให้ใบชายังคงความสดใหม่ กลิ่นหอม และรสชาติที่ดีเยี่ยมได้นานที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาเขียว หรือเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟที่ต้องการรักษาคุณภาพวัตถุดิบ การใส่ใจในวิธีการเก็บรักษาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

วิธีการเก็บรักษา “ใบชาเขียวอบแห้ง” ที่ถูกต้อง

เพื่อให้ใบชาเขียวอบแห้งของคุณคงความสดใหม่และมีคุณภาพดีเหมือนใหม่ตลอดเวลา ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด :

• เลือกใช้ภาชนะที่ปิดแน่นหนา : ภาชนะที่ปิดสนิทเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการป้องกันไม่ให้อากาศและความชื้นเข้าไปทำลายใบชา ควรเลือกใช้กระป๋องโลหะที่มีฝาปิดแน่นหนา ขวดแก้วที่มีฝาปิดสนิทพร้อมซีล หรือกล่องพลาสติกสำหรับเก็บอาหารที่มีคุณภาพดีและปิดสนิทได้
• เลือกใช้ภาชนะทึบแสง : แสงสามารถส่งผลเสียต่อคุณภาพของชาได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ภาชนะทึบแสง หรือหากใช้ภาชนะใส ควรเก็บไว้ในที่มืด เช่น ตู้เก็บของ เพื่อป้องกันแสงสว่างส่องถึงโดยตรง
• เลือกใช้ภาชนะที่ปิดแน่นหนา : ภาชนะที่ปิดสนิทเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการป้องกันไม่ให้อากาศและความชื้นเข้าไปทำลายใบชา ควรเลือกใช้กระป๋องโลหะที่มีฝาปิดแน่นหนา ขวดแก้วที่มีฝาปิดสนิทพร้อมซีล หรือกล่องพลาสติกสำหรับเก็บอาหารที่มีคุณภาพดีและปิดสนิทได้
• เลือกใช้ภาชนะทึบแสง : แสงสามารถส่งผลเสียต่อคุณภาพของชาได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ภาชนะทึบแสง หรือหากใช้ภาชนะใส ควรเก็บไว้ในที่มืด เช่น ตู้เก็บของ เพื่อป้องกันแสงสว่างส่องถึงโดยตรง
• หลีกเลี่ยงความชื้นอย่างเคร่งครัด : ความชื้นเป็นศัตรูร้ายของใบชา ควรเก็บใบชาไว้ในที่แห้งสนิท หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ใกล้ซิงค์ล้างจาน หรือในห้องน้ำ หากคุณกังวลเรื่องความชื้น สามารถใส่ซองกันชื้น (Silica Gel) ที่ปลอดภัยสำหรับอาหารลงในภาชนะเก็บชาได้
• ป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ : ใบชามีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้ดีมาก ดังนั้นควรเก็บใบชาให้ห่างจากอาหาร เครื่องเทศ หรือสิ่งของอื่นๆ ที่มีกลิ่นแรง เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นเหล่านั้นปะปนเข้าไปในชา ทำให้เสียรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
• ใช้ช้อนตักที่แห้งและสะอาด : ทุกครั้งที่ต้องการชงชา ควรใช้ช้อนที่แห้งและสะอาดตักใบชาออกมา หลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบโดยตรง เพราะมืออาจมีความชื้นหรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ชาเสื่อมคุณภาพได้ ควรมีช้อนสำหรับตักชาโดยเฉพาะ
• ควบคุมอุณหภูมิ : ควรเก็บใบชาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่และไม่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงการวางไว้ใกล้เตาอบ ไมโครเวฟ หรือบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของใบชา
• การเก็บรักษาปริมาณมาก : สำหรับร้านกาแฟหรือธุรกิจที่ใช้ใบชาในปริมาณมาก การเก็บรักษาที่ดียิ่งขึ้นคือการนำใบชามาบรรจุในถุงสูญญากาศขนาดเล็ก หรือแบ่งใส่ภาชนะที่ปิดสนิทหลายๆ อัน เพื่อให้มั่นใจว่าชาที่ยังไม่ได้ใช้งานจะยังคงความสดใหม่ได้นานที่สุด

ข้อควรจำ

• ใบชาเขียวอบแห้งสามารถดูดซับกลิ่นต่างๆ ได้ง่าย ควรระมัดระวังในการจัดเก็บ
• การเก็บรักษาที่ถูกวิธีจะช่วยคงกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชาไว้ได้นาน
• ภาชนะที่ใช้เก็บรักษาควรแห้ง สะอาด และไม่มีกลิ่น

สัญญาณที่บ่งบอกว่า “ใบชาเขียวอบแห้ง” เสื่อมคุณภาพ

ถึงแม้ว่าใบชาเขียวอบแห้งอาจจะยังไม่ถึงวันที่ระบุว่าเป็นวันหมดอายุ แต่ก็มีสัญญาณหลายอย่างที่บ่งบอกว่าคุณภาพของชาได้ลดลงแล้ว และอาจจะไม่ให้รสชาติหรือกลิ่นหอมที่ดีเหมือนเดิม การสังเกตสัญญาณเหล่านี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังใช้ใบชาที่มีคุณภาพดีที่สุดในการชงดื่ม

• การเปลี่ยนแปลงของกลิ่น : หนึ่งในสัญญาณแรกๆ ที่บ่งบอกว่าใบชาเขียวอบแห้งเริ่มเสื่อมคุณภาพคือกลิ่นที่เปลี่ยนไป ชาที่สดใหม่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นแบบหญ้า หรือมีกลิ่นเฉพาะตัวตามแต่ละชนิดของชา แต่ถ้าชาเริ่มเก่าหรือเก็บรักษาไม่ดี กลิ่นหอมเหล่านี้จะค่อยๆ จางหายไป และอาจมีกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยเกิดขึ้นแทน
• การเปลี่ยนแปลงของสี : สีของใบชาเขียวอบแห้งก็เป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้คุณภาพได้เช่นกัน โดยปกติแล้ว ใบชาเขียวที่ดีจะมีสีเขียวสดใส แต่เมื่อเวลาผ่านไป หรือหากโดนแสงหรือความร้อนมากเกินไป สีของใบชาอาจจะเริ่มซีดจางลง กลายเป็นสีเหลือง หรือออกสีน้ำตาลมากขึ้น ซึ่งแสดงว่าคุณภาพของชาเริ่มลดลงแล้ว
• การเปลี่ยนแปลงของรสชาติ : รสชาติคือสิ่งสำคัญที่สุดในการดื่มชา หากคุณสังเกตว่าชาเขียวที่ชงมีรสชาติที่เปลี่ยนไป เช่น จืดชืด ขมมากขึ้น หรือมีรสชาติที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าใบชาเสื่อมคุณภาพแล้ว แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของรสชาติอาจจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็จะทำให้ประสบการณ์การดื่มชาของคุณไม่ดีเท่าที่ควร
• ความชื้นหรือเชื้อรา : หากคุณสังเกตเห็นว่าใบชาเขียวอบแห้งจับตัวกันเป็นก้อน มีความชื้น หรือมีจุดสีขาว เขียว หรือดำคล้ายเชื้อรา นั่นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าชาเสียแล้ว และไม่ควรนำมาบริโภค เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

ข้อควรจำ : แม้ว่าใบชาเขียวอบแห้งอาจจะยังไม่หมดอายุตามที่ระบุ (ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่มี) แต่หากสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ ก็ควรพิจารณาไม่นำชามาบริโภค เพื่อให้ได้รสชาติและประสบการณ์การดื่มชาที่ดีที่สุด

หวังว่าข้อมูลและเคล็ดลับที่เราได้นำเสนอในบทความนี้ จะเป็นประโยชน์และสามารถนำไปปรับใช้ในการเก็บรักษาใบชาเขียวอบแห้งของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติและคุณประโยชน์ของชาเขียวได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ ครั้งที่ชงการทำความเข้าใจว่า ใบชาเขียวอบแห้ง เก็บได้นานแค่ไหน? และรู้วิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักดื่มชาทั่วไปที่ต้องการคงความสดใหม่ของชาแก้วโปรด หรือเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟที่ต้องการรักษาคุณภาพของวัตถุดิบ การเก็บรักษาใบชาอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากชาเขียว ทั้งในด้านรสชาติ กลิ่นหอม และคุณค่าทางสุขภาพ เพื่อคงกลิ่นหอม รสชาติ และคุณภาพที่ดีที่สุด หากคุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟหรือร้านชาไข่มุก อย่าละเลยการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า และที่สำคัญ “ไม่ควรแช่ชาทิ้งไว้เยอะ ๆ” เพื่อลดเวลาในการชงเครื่องดื่ม เพราะนอกจากจะทำให้รสชาติเปลี่ยนไปแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย การชงชาใหม่ทุกแก้วคือหัวใจสำคัญของการมอบเครื่องดื่มที่มีคุณภาพ

ว่าแล้วเครื่องดื่มชาในร้านของคุณมีเมนูหลากหลายเพียงพอหรือไม่? หากคุณกำลังมองหาใบชาคุณภาพเยี่ยมที่มีให้เลือกสรรมากมาย พร้อมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อนำไปรังสรรค์เมนูใหม่ๆ ในร้านของคุณ “โรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่” พร้อมเป็นผู้ช่วยของคุณ! Bluemocha เรามีใบชาให้เลือกมากกว่า 50 ชนิด รวมถึง “ใบชาเขียวอบแห้ง” หลากหลาย คุณสามารถเลือกชมสินค้าเพิ่มเติม หรือสอบถามรายละเอียดและสูตรการชงเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเรา นอกจากนี้ Bluemocha ยังมีบริการขายส่งใบชาเขียวอบแห้ง และจำหน่ายผงชาเขียวราคาถูก สำหรับผู้ที่ต้องการนำไปจำหน่ายต่อ หรือใช้เป็นวัตถุดิบในธุรกิจของคุณ เราคือโรงงานรับผลิตชาเขียว ที่มีสต็อกสินค้าพร้อมส่งจำนวนมาก และมีกำลังการผลิตสูง พร้อมรองรับทุกความต้องการของคุณ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ชาเขียวเป็นของตัวเอง หรือมองหาโรงงานที่รับผลิตชาเขียวแบบครบวงจร “โรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่” พร้อมให้บริการรับผลิตชา OEM&ODM ด้วยมาตรฐานสากล เราเป็นโรงงานผลิตชาเขียวเชียงใหม่ ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดัง ๆ และแฟรนไชส์มากมาย เพราะเราใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต และพร้อมให้คำปรึกษาแก่คุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการใบชาเขียวอบแห้งไปทำแบรนด์ หรือต้องการชาในปริมาณมากสำหรับธุรกิจของคุณ Bluemocha มีใบชาเขียวอบแห้ง ให้เลือกหลากหลายชนิดมากกว่า 7 ชนิด! แต่ละชนิดมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการชงในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟ ถุงกรอง หรือหม้อต้ม โดยเฉพาะ ชาเขียวพรีเมียม ที่ผลิตจากใบชาอู่หลงแท้ และชาเขียวโกลด์ สูตรพิเศษสำหรับชานม เป็นสินค้าขายดีของเรา

หากสนใจอยากได้ใบชาเขียว ราคาปลีก-ส่ง ต้องการใบชาในปริมาณมาก อยากนำไปจำหน่ายต่อ อยากทำแบรนด์ชา อยากผลิตชาสูตรเฉพาะให้แฟรนไชส์ อยากนำไปใช้ในอุตสาหกรรม ทางเรา ”ขายส่งใบชาเขียวอบแห้ง” มีสินค้าผงชาเขียวพร้อมจัดส่งทันที มีสต๊อกวัตถุดิบเยอะ มีกำลังการผลิตสูง ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการขาดแคลนวัตถุดิบ “โรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่” ใบชาจากแหล่งเพาะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และนำเข้าจากต่างประเทศ มีใบชาให้เลือกมากกว่า 50 รายการ สินค้าที่ขายดี จะเป็น ชาไทยเชียงใหม่, ชาเขียวพรีเมียม, ชาไต้หวันพรีเมียม, ชาอัญชัน, ชามะลิใส, ผงครีมชีส, ผงมัทฉะ และผงโกโก้ 

ขั้นตอนการรับผลิตชา OEM&ODM โรงงานผลิตชา Bluemocha เชียงใหม่

Step 1 : ปรึกษากับพนักงานบริการลูกค้า
Step 2 : OEM แจ้งชาที่ต้องการผลิต หรือเลือกผลิตภัณฑ์ทางโรงงานเราได้เลย
ODM หากมีชาที่ต้องการ สามารถส่งตัวอย่างชาให้กับทางโรงงานได้เลย เราจะทำการเปรียบเทียบรสชาติ กลิ่น และทำการผลิตชาขึ้นมาใหม่
Step 3 : OEM ทางโรงงานจะจัดส่งตัวอย่างให้ลูกค้าได้ทดสอบ
ODM ได้รสชาติชาที่ลูกค้าต้องการแล้ว สามารถแจ้งความต้องการในการออกแบบบรรจุภัณฑ์
Step 4 : ออกแบบโลโก้และฉลากสินค้า ลูกค้าสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ สี ได้ตามความต้องการ ทางทีมงานจะส่งตัวอย่างที่ออกแบบแล้วให้ลูกค้า กรณีที่มีบรรจุภัณฑ์อยู่แล้ว สามารถส่งมาให้ทางโรงงานได้เลย
Step 5 : โรงงานจะแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมรายละเอียดและส่งใบสั่งซื้อสินค้าให้ตรวจสอบและรับทราบ ลูกค้าทำการชำระเงินทั้งหมด ก่อนเริ่มผลิตสินค้า และรอรับสินค้า
Step 6 : ทางโรงงานทำการผลิตสินค้า และจัดส่งสินค้าตามที่กำหนด

เรารับผลิตชา OEM & ODM รับผลิตชาด้วยขั้นต่ำการผลิตที่ไม่สูง เริ่มต้นที่ 51 กิโลกรัม สามารถคละผลิตภัณฑ์ของเราที่มีอยู่แล้ว หรือผลิตตามสูตรเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าได้ รับเรทราคาโรงงานทันที (ช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบได้) ที่สำคัญโรงงานผ่านมาตรฐานการผลิต HACCP, GHPs, อย., USFDA และเครื่องหมายรับรองฮาลาล (HALAL) ไว้ใจได้แน่นอน เราให้ความสำคัญกับการผลิตทุกขั้นตอน มีคุณภาพ และตรวจสอบก่อนถึงมือคุณ หากสนใจสามารถติดต่อหาเราได้ทุกช่องทางออนไลน์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมมาได้เลย

Bluemocha ยินดีอย่างยิ่ง ในการให้บริการรับผลิตชา OEM สร้างแบรนด์ชา ผลิตชาสำหรับแฟรนไชส์ ให้กับคุณ พร้อมที่จะสนับสนุนธุรกิจให้เติบโต ด้วยการมุ่งเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพ, การให้คำปรึกษาในการเลือกสินค้า, การมีสินค้าพร้อมจัดส่ง, การจัดส่งสินค้าตรงเวลา รวมถึงการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการเริ่มต้นธุรกิจสร้างแบรนด์ชา และผลิตชาสำหรับแฟรนไชส์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เราจึงพร้อมผลิตชา รับสร้างแบรนด์ชา ด้วยกำลังการผลิตสูง ที่มีคุณภาพมาตรฐาน แถมยังสามารถให้คำปรึกษา ตลอดการทำแบรนด์ชา ด้วยการบริการที่เป็นมืออาชีพ เราจึงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา

สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LINE : @bluemochacoffee
TEL : 064-9045146
EMAIL : [email protected]

โรงงาน Bluemocha มุ่งมั่นที่จะให้บริการและผลิตผงชาเขียวคุณภาพ เราพร้อมที่จะช่วยคุณพัฒนาสินค้าผงชาเขียวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณ