9-เทคนิค ทำให้การชงชาของคุณให้อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านชานมไข่มุก

9 เทคนิค ทำให้การชงชาของคุณให้อร่อยยิ่ง

9-เทคนิค ทำให้การชงชาของคุณให้อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านชานมไข่มุก

การเปิดร้านชานมไข่มุกของคุณนั้นรสชาติชาของคุณ มีความแปลก แตกต่างกว่าร้านอื่นที่ขายกันตามท่องตลาด หรือไหม ? ทำอย่างไรที่จะทำให้ชาของคุณมีเอกลัษณ์ ( 9-เทคนิค ทำให้การชงชาของคุณให้อร่อยยิ่งขึ้น )

ใบชา เทคนิคการชงชาให้อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านชานมไข่มุก

ถ้าหากต้องการให้รสชาติชาแปลก แตกต่างไปจากร้านอื่น ๆ เรามีบทความที่จะสามารถเพิ่มสกิลในการชงชาของคุณให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่บางครั้งคุณอาจจะชงชาผิดวิธี หรือบ่อยครั้ง คุณต้องลองผิดลองถูกเองจนกว่าจะเมนูนั้นมา

ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหาจากการชงชาแล้วไม่อร่อย โดยมาวิธีการดังนี้

1. ปรับเวลาในการชงชาหรือแช่ชา

ใบชา

ปัญหาส่วนใหญ่ของการชงชาคือ การชงชาแล้วมักแช่ใบชาไว้นานจนเกินไป เพราะว่าอาจจะลืมหรือติดธุระต่าง ๆ

หรือการแช่ชาไวจนเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปรับเวลาให้เหมาะกับการชงชาเป็นอย่างมาก   

เมื่อแช่ชานานเกินไป อาจจะทำให้การดื่มชานั้นเสี่ยงที่จะทำให้รสชาติของชานั้นไม่อร่อย รสชาติจะฝาดและขม และทำให้เสียรสชาติของชา ไปบางส่วน

ตัวอย่างเช่น

ชาเขียว ควรแช่ประมาณ 2-4 นาที

ชาแดงหรือชาอัสสัม ควรแช่ประมาณ 6-10 นาที

ชาดำ ควรแช่ ประมาณ 3-5 นาที

ชาขาว ควรแช่อย่างน้อย 1 นาที และตรวจดูทุกๆ 30 วินาที จนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร หรือ บางชนิดใช้เวลาถึง 10 นาที “

แต่ชาสมุนไพรนั้นจะง่ายกว่าชาอื่นๆ ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที รสชาติของชานั้นจะออกมาหลังจาก 5 นาที ซึ่งทำให้ไม่ต้องค่อยดูเวลาตลอดเวลา

2. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชาชนิดนั้น เหมาะกับการใช้อุณหภูมิของน้ำที่แช่ที่เหมาะสม

9-เทคนิค ทำให้การชงงชาของคุณให้อร่อยยิ่งขึ้น สำหรับร้านชานมไข่มุก

ปัญหาที่เกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำที่จะนำมาแช่นั้น น้ำที่ร้อนจนเกินไปก็จะส่งผลต่อความขมหรือฝาดของชาเช่นกัน  นอกจากจะขมและฝาดแล้วยังทำให้เสียรสชาติชาไปด้วย หรือน้ำที่ความเย็นไปก็จะทำให้ชามีรสชาติที่จืดจนถึงไม่มีรสชาติเลยก็ได้

“แล้วน้ำชาควรร้อนเท่าไหร่ ?”

สำหรับชาเขียว 80 C / 176 ฟาเรนไฮต์ ก็เพียงพอแล้ว อะไรที่ร้อนกว่าจะทำให้ชานั้นเสียรสชาติและคุณจะไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างแน่นอน หากคุณไม่มีเทอร์โมมิเตอร์แล้วละก็ให้คุณนำน้ำไปต้มจนเดือดแล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที

สำหรับชาดำ จำเป็นต้องใช้ 90 องศาเซลเซียส / 194 ฟาเรนไฮต์ สามารถใช้น้ำที่ร้อนกว่าเล็กน้อยได้ แต่อย่ามากจนเกินไป

สำหรับชาขาว คุณจะต้องใช้น้ำ 75 องศาเซลเซียส / 167 ฟาเรนไฮต์ และต้องใช้อดทนอย่างมากในการชง ควรทราบว่าชาขาวมีความละเอียดอ่อนมากและคุณจะต้องตรวจสอบทุกๆ 2-3วินาทีเพื่อดูว่าเป็นรสชาติที่คุณชอบหรือไม่

สำหรับชาสมุนไพร อย่าใช้น้ำเดือด ให้ใช้น้ำ 90 องศาเซลเซียส / 194 ฟาเรนไฮต์ เหมือนกับชาดำ และถ้าอยากให้สรรพคุณของชาสมุมไพรยังอยู่ครบ อย่าต้มชาสมุนไพรเป็นเวลานาน หลายนาที และการต้มเป็นเวลายายจะทำให้ชาสมุมไพรนั้นเสียรสชาติอีกด้วย

3. แน่ใจว่าน้ำที่จะนำมาชงชาของคุณนั้นสะอาดและบริสุทธิ์

9-เทคนิค

 การใช้น้ำสะอาดนั้นมีผลต่อรสชาติของชา เราไม่ได้หมายความว่าน้ำที่บ้านหรือร้านของคุณนั้นไม่สะอาด ไม่สามารถดื่มได้ แต่หมายความว่าน้ำที่คุณจะนำมาชงชานั้น เหมาะสมรึเปล่า

ตัวอย่างเช่น การนำน้ำที่บ้านคุณมาชงชาและทำให้รสชาติชาของคุณนั้นลดลงหรือแปลก ๆ สังเกตน้ำโดยการตวงใส่แก้วใส แล้วให้ดูที่สี  และ กลิ่น แล้วทิ้งไว้ซักพักเพื่อดูว่ามีตะกอนตกค้างรึเปล่า ซึ่งสิ่งที่พบในน้ำของคุณนั้นคือแร่ธาตุและเกลือพิเศษ ซึ่งมันไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ส่งผลเสียต่อรสชาติของชา การชงชานั้น เราแนะนำให้ใช้น้ำบริสุทธิ์ หรือ น้ำขวดมาใช้ในการชงชาแทน น้ำที่จะใช้ชงชานั้น ขอเพียงตรวจสอบว่าน้ำสะอาดก็พอแล้ว ไม่จำเป็นถึงกับซื้อน้ำสะอาดที่มีราคาแพง เช่น น้ำแร่ น้ำสะอาดจากธรรมชาติ

4. คุณแน่ใจหรอว่าใบชาที่คุณใช้นั้นถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดี

9-เทคนิค

ใบชาที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีนั้น รสชาติของน้ำชา จะมีรสชาติดี ซึ่งใบชาที่เป็นถุงสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1-3 ปี และใบชาที่เก็บไว้ในกระป๋อง สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 1 ปีหรือน้อยกว่านั้น

การเก็บรักษาใบชาที่ดีนั้น ควรเก็บไว้ในที่มืด ที่แสงแดดไม่ส่องถึง หรือไว้ให้ห่างจากความร้อน และเก็บไว้ที่แห้ง และควรเก็บไว้ที่ ที่มีสูญญากาศ ยิ่งจะทำให้เก็บได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้การขายใบชานั้นจะแบ่งขายเป็นถุงเล็ก ๆ หรือ ประมาณ 400-500 กรัม หรือ 1 กิโลกรัม การที่ซื้อเป็นชุดเล็ก ๆ นั้นมีผลดี ก็คือ การเก็บรักษาง่าย โดยเก็บใส่ประป๋องที่ปิดสนิด แต่ถ้าใช้ถุงใหญ่จะต้องแบ่งใช้ และเมื่อเปิดถุงชาจะทำให้ใบชานั้นโดนอากาศทำให้รสชาติชานั้นเริ่มเพี้ยนไปจากเดิม

ยกตัวอย่าง

” มีร้านอาหารแห้งหนึ่งซื้อใบชาแล้วนำใบชานั้นเก็บไว้บนชั้นวางของที่อยู่สูง ในห้องครัว แต่เจ้าของไม่คำนึงถึงการทำอาหารหรือใช้ความร้อน ซึ่งความร้อนหรือไอน้ำนั้นจะพุ่งขึ้นสู่เพดาน และเมื่อทำอาหารหรือใช้ความร้อนเป็นเวลานาน ๆ นั้น ห้องครัวอาจจะไม่เหมาะกับการเก็บรักษาใบชา ควรย้ายไปใช้ที่ห้องรับแขกหรือ ห้องที่ไม่ชื้นและไม่โดนแสงแดดโดยตรง “

5. ไม่ควรเสิร์ฟชาหลังของหวาน หรือ อาหารอื่น ๆ

การเสิร์ฟชาหลังของหวานนั้นจะทำให้ชามีรสชาติที่จืด ไม่มีรสชาติของชา ความหวานของขนมจำพวกเค้ก หรือ ขนมที่มีรสชาติหวานต่าง ๆจะไป กลบรสชาติของชา และ ของหวานเหล่านั้นจะติดลิ้น หรือบางชนิดจะเคลือบลิ้น เช่น วิปปิ้งครีม หรือ ของจำพวกทอด ร่วมไปถึงเสิร์ฟชาหลังอาหารที่รสชาติที่จัด เพราะทำให้ชาไม่มีความอร่อย รสชาติของชาจะเพี้ยนหรือ ต่างไปจากเดิม หรืออาจจะทำให้ชามีรสชาติตามอาหารที่ได้รับประทานไป

ดังนั้น คุณควรเสิร์ฟชาก่อนที่ลูกค้าจะกินขนมหรืออะไรที่มีรสชาติหวาน และขนมหรืออาหารนั้นไม่เป็นของที่มีความมัน และไม่ควรเสิร์ฟก่อนชา

ถ้าคุณเสิร์ฟของหวานหรืออาหารที่มีรสจัดแก่ลูกค้าไปแล้ว ควรให้ลูกค้ารอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะดื่มชา หรืออะไรที่มีรสชาติอ่อน เช่น ชา แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาพอ ถึง 1 ชั่วโมง แต่อยากดื่มชาที่รสชาติที่ไม่เพี้ยน ฉันแนะนำให้คุณเสิร์ฟ น้ำส้ม หรือ โซดา ไปก่อน เพื่อล้างปาก

6. ลองเปลี่ยนแก้วหรือถ้วย ให้มีรูปทรงต่าง ๆ เพื่อให้มีความรู้สึกใหม่ ๆต่อการดื่มชา

9-เทคนิค ชงชา ด้วยการเปลี่ยนแก้วหรือถ้วย ให้มีรูปทรงต่าง ๆ

การดื่มชาปกติ จะใช่เป็นแก้วพลาสติก เพื่อลดเวลาในการล้างแก้วต่าง ๆ ภายในร้าน หรือ เพื่อสามารถให้ลูกค้าถือไปไหนได้สะดวก แต่การเสิร์ฟชาด้วยแก้วพลาสติก แบบเดิม ๆ อาจจะทำให้ลูกค้าเริ่มที่จะรู้สึกเบื่อแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนแก้วเป็นรูปทรงต่าง ๆ หรือ ภาชนะอื่น ๆ ดูสิ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกใหม่ ๆ ในการดื่มชา เพื่อให้เป็นที่ดึงดูดลูกค้า และเพื่อแลกกับการบริการของลูกค้า คุณต้องเสียเวลานิดหน่อยในการเก็บและล้างแก้วต่าง ๆ ที่ลูกค้าใช่ไปแล้ว ถ้าคิดดูให้ดีแล้วนั้น เพื่อแลกกับการที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก

7. การล้างอุปกรณ์การชงชาของคุณ

บ่อยครั้งที่คุณดื่มชาแล้วมีรสชาติหรือกลิ่นที่แปลกไป ซึ่งบ่อยทั้งก็เกิดจากตัวใบชาเอง แต่ยังมีอีกข้อที่ทุกคนมองข้ามก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชงชาของคุณนั้นสกปรกและ มีใบชาเก่าหลงเหลืออยู่ สามารถใช้แปลงยาวบางๆ หลังใช้งานทุกครั้งก็ได้แต่ อาจจะมีบางส่วนที่แปลงไม่สามารถเข้าถึงได้ ฉันแนะนำให้คุณใช้น้ำร้อนและสบู่ล้างจานในการล้าง และล้างให้ให้เศษใบชาหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ออกจนหมด

8. ลองใส่สารให้ความหวานหรือเครื่องปรุงต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ

หากรสชาติของชาจืดไป และคุณยังอยากดื่มชาให้อร่อยขึ้น เราแนะนำให้คุณใช้สารให้ความหวานต่าง ๆ หรือ เครื่องปรุงอื่น ๆ ตัวอย่างการดื่มชาดำ กลิ่นและรสชาติของชานั้นอาจจะแรงและขมไป ลองใส่น้ำตาลหรือนมข้นเพิ่มเข้าไปสักหน่อย อาจจะทำให้รสชาติดีขึ้นก็ได้ 

9. ปรับอัตราส่วนชากับน้ำให้เหมาะสม

9-เทคนิค ใบชา ชงชาให้อร่อยทำอย่างไร แนะนำวิธี
9-เทคนิค

การปรับอัตราส่วนของชากับน้ำนั้น เพื่อไม่ให้รสชาติของชาแรงเกินไป ถ้าคุณใส่ใบชามากเกินไป จะส่งผล ทำให้มีรสชาติเข้มจนเกินไป และเช่นเดียวกัน เมื่อใส่น้ำมากเกินไป จะทำให้รสชาติของชาจืดเกินไป

Blue mo cha tea เป็น โรง งาน ผลิต ชา เขียว ชา ไทย ชา ไต้ หวัน กา แฟ ระ ดับ มาตร ฐาน โดย ทาง เรา ให้ บริ การ รับ ผลิต ชา OEM ซึ่ง มี ใบ ชา และ วัตถุ ดิบ มาก กว่า 24 ชนิด ให้ ลูก ค้า ได้ เลือก สรร ตาม ความ พึง พอ ใจ มี ทั้ง ผง ชา เขียว ชา ไทย หรือ จะ เป็น ชา ไต้ หวัน สำ หรับ ร้าน ค้า แฟรน ไชส์ ที่ ต้อง การ วัตถุ ดิบ สำ หรับ ชง เครื่อง ดื่ม เป็น จำ นวน มาก ที่ สำ คัญ นอก จาก ชนิด ใบ ชา

บทความแนะนำ

Related